หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ตอบคำถามด้วยคำถาม

ไปอ่านเจอข้อเขียนที่เพื่อนเอามาโพสท์ในบ้าน เพื่อนเอามาจากไหนก็ไม่ทราบ เค้าว่ายังงี้ครับ
"2.คำถามเพื่อสร้างความรู้สึกเป็น เจ้าของ
เมื่อพนักงานมีปัญหาและเข้ามาถามเพื่อขอคำตอบ
ทางที่ดีที่สุดคือไม่ใช่การให้คำตอบกับพนักงานเพื่อให้เขาไปแก้ไขหรือ ปฏิบัติ
แต่เป็นการให้พนักงานได้ลองคิดแก้ไขปัญหาด้วยตัวเองก่อน
เพราะนั่นจะทำให้พนักงานรู้สึกเป็นเจ้าของวิธีแก้ไข และจะพยายามลงมือปฏิบัติอย่างเต็มความสามารถ
ยกตัวอย่างคำถาม เช่น จากประสบการณ์ที่ผ่านมา คุณคิดว่าเราน่าจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไรดี ?"

ขอวิสัชนาข้อนี้ข้อเดียว

คงเคยได้ยินข้อห้ามกันมาบ้างนะครับว่า “อย่าตอบคำถามด้วยคำถาม”
อย่าถามนะครับว่าใครห้าม โกก็ไม่รู้เหมือนกัน

คนเป็นครู เค้าห้ามตอบนักเรียนว่าไม่รู้ เสียฟอร์มครูหมดเลย
เค้าให้ตอบว่า "เอ... เรื่องนี้ครูก็ไม่แน่ใจเหมือนกันนะ แต่เพื่อความถูกต้อง ครูจะมาตอบพรุ่งนี้แล้วกันนะ"

แต่จากคำแนะนำนี้ เค้ากลับให้เราถามคำถามกลับ แล้วแน่นอนว่าพนักงานต้องเป็นคนตอบ
ตกลงว่า อันไหนมันดี อันไหนมันไม่ดีกันแน่

เมื่อก่อนโกทำงานกับฝาหรั่ง ฝรั่งเป็นเจ้านายใหญ่
โกเคยเดินเข้าไปถามปัญหาเค้าเหมือนกัน ปัญหาเรื่องงานนะครับ ไม่ใช่ปัญหาอะไรเอ่ย?
เค้าฟังคำถามจบ เค้าก็ทำแบบที่คุณคนนี้แกแนะนำแหละครับ เค้าถามกลับมาว่า
"แล้วคุณคิดว่า เราควรจะทำยังไงดีล่ะ?"
ถึงตรงนี้ก็ใบ้รับประทานอ่ะครับ เพราะเราไม่ได้เตรียมคำตอบเอาไว้ล่วงหน้า
ถ้าจะให้ตอบ ก็ต้องตอบว่า "อ้าว.. ถ้ารู้แล้วตรูจะเดินมาถามเอ็งเรอะ" แต่มันก็ตอบอย่างที่คิดไม่ได้อ่ะนะ เดี๋ยวได้ตกงาน

นายก็เลยสั่งและสอนว่า การเข้ามาถามนายว่าจะให้ทำอะไรยังไง ไม่ใช่เรื่องผิด
แต่อย่ามาถามแบบ "หัวกลวง" คือไม่มีอะไรอยู่ในหัวเลย
ให้เตรียมคำตอบมาด้วย อย่างน้อย 2 คำตอบ และควรจะเป็นคำตอบที่มองหาทางหนีทีไล่มาแล้วเป็นอย่างดี
ถ้านายชอบคำตอบที่ 1 ทุกอย่างจบ นายแฮปปี้ ลูกน้องแฮปปี้
ถ้านายไม่ชอบคำตอบที่ 1 ยังมีคำตอบที่ 2 สำรองอยู่อีก 1 ข้อ
ถ้านายชอบคำตอบที่ 2 ทุกอย่างจบอีกเหมือนกัน นายแฮปปี้ ลูกน้องแฮปปี้

แล้วถ้าเกิดว่า นายไม่ชอบทั้ง 2 คำตอบล่ะ
นายผมบอกว่า ไม่ได้แปลว่าคุณไม่เก่งหรอก นายอาจจะเห็นเป็นอย่างอื่นก็ได้ แต่อย่างน้อยคุณก็ได้ผ่านกระบวนการคิดมาแล้ว

ถ้านายออกไปในแนวทางที่ 3 ซึ่งเป็นแนวทางของนายเอง (ซึ่งนายส่วนมากจะออกแนวนี้)
คุณก็ต้องเอาคำตอบนั้้นไปปฏิบัติ แล้วก็ศึกษาเพิ่มเติมเอาเองว่า ทำไมนายคิดแบบนั้น
เพื่อว่าในอนาคต คุณจะรู้ทางนาย (หรือจะใช้คำว่าเดาทางถูกก็ได้ // แต่โกไม่ชอบเดา)

ดูกรกุมารา ดูรากุมารี..
การดังที่กล่าวมา จะต้องมีการส่งเสริมทักษะในกระบวนการคิดให้กับลูกน้องก่อน
สอนให้เค้ารู้จักคิด และเราต้องนับถือความคิดของเขา
ถ้าดี ก็บอกว่าดี
ถ้าไม่ดี ก็ต้องบอกว่ามันไม่ดีตรงไหน เพราะอะไรถึงไม่ดี
สอนยังไงก็แล้วแต่ถนัดของแต่ละคน ประโยคที่ว่า "หัดคิดเองมั่งสิวะ" ก็พูดๆบ้างก็ได้ครับ
แล้วแต่ว่าจะสนิทกันขนาดไหน
ไม่ใช่อะไรก็พูดไม่ได้เอาเลย ทำเป็นฝึกทหารสมัยใหม่ไปได้
สอนให้เค้าคิดเป็นก่อน แล้วค่อยตอบคำถามด้วยคำถามนะครับ

โก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น