หน้าเว็บ

วันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

สัมภาษณ์ - สัมพลาด

คนจะสัมภาษณ์งานคนอื่น ต้องมี/ต้องใช้ทักษะแบบไหนบ้าง
สืบเนื่องจากข้อเขียนของหลวงพี่เต้ย โกเลยอยากจะมาวิสัชนากับเค้าบ้าง

เรื่องที่หลวงพี่วิสัชนามา โกขอรับสารภาพลดครึ่งว่า ไม่ค่อยจะรู้เรื่องเท่าไหร่นะครับ
และต้องขอชมว่าหลวงพี่เยี่ยมจริงๆ ที่ได้พยายามไปเรียนโน่นเรียนนี่มาหลากหลาย เพื่อจะเอาความรู้มาสัมภาษณ์คน
แต่สุดท้าย ก็มาจบลงตรงคำว่า Common Sense ใครรู้ช่วยบอกโกทีว่ามันแปลว่าอะไร?

ถ้าจะแปลว่า "สามัญสำนึก" จริงๆแล้วมันถูกรึเปล่า อันนี้ไม่ทราบจริงๆนะครับ
เปิดชินดิกบุนนาคยี่ห้อ Lexitron คุณนายให้ความหมายว่า "การตัดสินแบบพื้นๆ" เอาเข้าแล้วไง !!
มันจะเหมือนกับ Food Floor House มั้ยครับลูกพี่ ที่มันแปลว่า อาหารพื้นบ้านน่ะ
ถ้างั้นเอาสองตัวมารวมกัน แล้วให้มันแปลว่า สำนึกเบื้องต้น สำนึกพื้นๆ สำนึกธรรมดาๆ จะง่ายกว่ามั้ย

หลังจากที่หลวงพี่เสาะแสวงหาความรู้มานาน จนมาเจอคำว่า Common Sense เข้า
มันก็คงคล้ายๆกับที่โกค้นพบว่า มือถือราคาถูก ใช้งานไม่ดีเท่าราคาแพงนั่นแหละครับ
โปรดฟังอีกครั้ง
เมื่อแรกรัก โกก็ซื้อมือถือราคาแพงมาใช้ แล้วก็ถามตัวเองว่ามันดียังไง
เลยเปลี่ยนมาใช้เครื่องราคาถูกแทน ด้วยหวังว่าจะเป็นที่ชื่นชมโสมนัสของเหล่าบรรดามี
ว่าสามารถค้นพบสัจจะธรรมของชีวิตแล้ว Low Profile - High Profit จำกันเอาไว้นะโยม ภาษาอังกฤษวันละคำ
เหนือฟ้ายังมีเมฆ เหนือกระดาษคือก้อนซาละเปา โกก็ค้นพบสัจจะของลูกผู้ชายอีกข้อ
ของดีราคาถูกไม่มีในโลก จริงยิ่งกว่าจริงครับลูกพี่ เดี๋ยวจะขายของถูก ไปซื้อของแพงมาใช้อีกที .. เหอ เหอ..

เอางี้ดีกว่า สั้นๆง่ายๆ และได้ใจความ
โกเห็นด้วย 100% กับใครก็ตามที่บอกหลวงพี่ว่าให้ใช้สำนึกเบื้องต้นในการสัมภาษณ์งาน
แต่ขอ+ ความรู้เฉพาะทางเข้าไปด้วยนะครับ .. นิดนึงนะ

โกเคยสัมภาษณ์เด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่สมัครเข้ามาทำงานแคชเชียร์ห้องอาหารในโรงแรม
ก็ดูๆประวัติเจ้าหล่อน ตามที่เขียนมาให้อ่าน ไม่มีอะไรยุ่งยากมากมาย เคยเป็นงานมาแล้ว 2-3 ปี กำลังดี
แล้วก็ถามเรื่อยเปื่อย เพื่อให้เกิดความคุ้นเคย จะได้คุยกันง่ายขึ้น
สุดท้ายโกก็ถาม มีแฟนแล้วยัง? ยังไม่มีค่ะ ทำไมเหรอคะ? (ตอนนี้เสียงยังเป็นปกติอยู่)
ปกติตื่นนอนกี่โมง? "ก็เช้าค่ะ บางวันไม่ไปทำงานก็สายหน่อย"
ถ้าไปทำงาน ใช้เวลาอาบน้ำเตรียมตัวนานแค่ไหน - ตอนนี้หัวคิ้วสองข้างเริ่มขยับเข้ามาใกล้กันนิดนึง
แต่ก็ตอบ - ก็ประมาณครึ่งชั่วโมงค่ะ
รวมเวลาแต่งหน้าทาปากอะไรด้วยใช่มั้ย - ใช่ค่ะ ถามทำไมเหรอคะ (เสียงสูงนิดนึง คงนึกในใจ มรึงจะถามกรูทำมายยยย)
แล้วขี่รถจากบ้านมาท่าเรือเนี่ยะ ใช้เวลาเท่าไหร่ครับ - ก็ประมาณ 20 - 25 นาทีค่ะ
เมาเรือรึเปล่าครับ - ไม่ค่ะ
คลื่นสูงสองเมตรนะครับ - ไม่เป็นไรค่ะ (งั้นข้อนี้ผ่าน รับเข้าทำงานได้)
จะมาทำงานที่นี่ เรือออกจากท่าตอนเช้าเวลา 07.00 น. คุณใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัว ขี่รถมาทำงานประมาณ 1 ชั่วโมง
คุณก็ต้องตื่นนอน 06.00 น. ซึ่งไม่ทันแน่นอน ประมาณว่าต้องตื่น 05.30 น. ถึงจะพอดี
คุณจะตื่นนอนเวลานี้ทุกวันได้รึเปล่า - ไม่มีปัญหาค่ะ
แล้วถ้าเป็นหน้าฝน คุณจะมาทำงานยังไง คุณจะต้องตื่นกี่โมง คราวนี้อึ้งไปหน่อย แต่ก็มีทางออก
หนูมารถรับส่งพนักงานได้มั้ยคะ - ได้ครับ

คราวนี้ก็ถามต่อเรื่องเวลาเลิกงาน
ถ้าคุณทำงานรอบบ่าย เรือออกจากท่า 13.00 น. ไม่มีปัญหาแน่นอน - ใช่ค่ะ
แต่คุณจะเลิกงานตอน 23.00 น. และเรือออกจากเกาะเวลา 24.00 น. มาถึงฝั่ง 00.45 น.
คุณขี่มอไซค์กลับบ้านคนเดียว ถึงบ้านประมาณตี 1 กว่าๆ ได้มั้ยครับ เจ้าหล่อนอึ้งไปสองอึดใจ
แล้วตอบ - สงสัยคงจะไม่ได้หรอกค่ะ ที่บ้านต้องเป็นห่วง .......
แล้วเจ้าหล่อนก็จางหายไป

หรืออีกกรณี
มีแฟนแล้วนะ แต่งงานกันรึเปล่าครับ - เปล่าค่ะ อยู่ด้วยกันเฉยๆ
จดทะเบียนรึเปล่าครับ - ไม่ได้จดค่ะ
มีลูกรึยังครับ - มีค่ะ ลูกชาย 1 คนค่ะ
อายุเท่าไหร่ครับ - 4 ขวบค่ะ
ใครเลี้ยงล่ะครับ - ให้แม่แฟนเลี้ยงให้ค่ะ (เจ้าหล่อนเริ่มมีเครื่องหมายคำถามที่หน้าผาก มรึงจะถามอะไรกรูนักหนาเนี่ยะ)
4 ขวบยังไม่ไปโรงเรียนเหรอครับ - เปิดเทอมนี้ไปแล้วค่ะ (สุดท้ายเจ้าหล่อนก็ทนไม่ไหว)
ขอโทษนะคะ ทำไมพี่ต้องถามหนูเยอะแยะแบบนี้ละคะ ไม่เห็นจะเกี่ยวกับงานเลยนี่คะ
อ๋อ.. ไม่เกี่ยวกับเนื้อหาของงานจริงๆครับ แต่มันเกี่ยวกับประสิทธิภาพในการทำงานครับ
คือว่า ถ้าคุณยังไม่มีลูก ผมก็จะถามว่า แล้วคุณกำลังจะมีลูกรึเปล่า คุณท้องผมก็ท้อแท้ ต้องหางานที่เหมาะสมให้คุณทำ
คุณคลอด คุณก็ต้องลาคลอด ลาป่วย หาคนเลี้ยงลูก ลูกงอแง ลูกป่วยสารพัด
เดี๋ยวก็หาคนเลี้ยงลูกไม่ได้ คนเลี้ยงลูกลาพัก คุณก็ลาตามไปอีกคน สารพัดสารเพ ที่ผมต้องคิดเผื่อเอาไว้ก่อนไงครับ
แต่ลูกคุณเข้าโรงเรียน ผมก็สบายใจหน่อย อะไรแบบนี้ไงครับ
อ๋อ...

สมัยทำงานอยู่บนเกาะ คำถามพวกนี้เป็นคำถามพื้นๆ ที่ต้องถามครับนะครับ
เมาเรือป่าว เลิกงานกลับบ้านดึกๆได้ป่าว แต่งงานแล้วยัง ใครเลี้ยงลูก
เรื่องพวกนี้สร้างปัญหาในการทำงานได้ทั้งนั้นครับ แต่คำตอบก็ไม่ใช่บทสรุปของทุกเรื่อง
ไม่ได้แปลว่าถ้าผ่านเรื่องพวกนี้ได้ แล้วจะทำงานดี มันเป็นแค่ด่านแรกเท่านั้น ไหนจะมีเรื่องความรู้ในงานอีกล่ะ

สัมภาษณ์งานก็เหมือนเล่นการพนัน เปิดไพ่มาใบเดียว ที่เหลือเราไม่มีทางรู้ .. แล้วทำไงดี
ทดลองงาน 3 เดือนไงครับ ให้เค้าโม้ไปเถอะว่าเก่งยังไงก็ได้ บางคนถามอะไรตอบได้หมดยังก๊ะอับดุลย์ ถามมาตอบได้
เป็นประเภททฤษฎีแน่นเปรี๊ยะ แต่ปฏิบัติไม่ได้เรื่อง ถึงเวลาก็คือไม่ผ่านทดลองงาน แค่นั้นเอง
แต่ปัญหาคือ ส่วนใหญ่แล้วหัวหน้างานจะเป็นประเภทขี้สงสาร เอาเหอะ แล้วค่อยๆปรับปรุงไป - ฆ่าตัวตายชัดๆ

โกเคยไปสัมภาษณ์เข้าทำงานที่โรงแรมแห่งหนึ่ง เจ้าของโรงแรมสัมภาษณ์ด้วยตัวเองเชียว
หยั่งเค้าน่ะ ธรรมดาก็คงไม่อยากมองเราหรอก แต่โกก็ได้งาน เพราะคำถามคำเดียว
ก็ผ่านกระบวนการสัมภาษณ์งานตามธรรมดา เหมือนหลวงพี่ว่าเปี๊ยบ
มรึงท่องมาถาม กรูก็ท่องมาตอบเหมือนกัน โกทำการบ้านมาดีเฟ้ย อ่าน web ของโรงแรมมาหลายเที่ยว รู้หมด
สุดท้ายเค้าก็ถามว่า "อยากถามอะไรผมบ้างมั้ยครับ?" อั้นแน่.. เค้าอยากให้เราสัมภาษ์เค้าเหมือนกันนิ
เพื่อบ่งบอกว่า เราทำการบ้านมาดี เราก็บอกเค้าว่า
"มีเรื่องเดียวครับ เพราะเรื่องของโรงแรมผมเข้าไปดูใน web มาหมดแล้ว แต่ผมไม่เข้าใจว่า โลโก้ของโรงแรม มันหมายความถึงอะไร?"
เจ้าของมองหน้าโกแว้บนึงแล้วอมยิ้ม โกนึกในใจ - เอาแล้วกรู พูดไรผิดวะ

แกลุกจากโต๊ะ ไปหยิบหนังสือมาเล่มนึง พร้อมพูดว่า "ผมสัมภาษณ์งานมาหลายคน มีคุณนี่แหละคนแรกที่ถาม"
แล้วแกก็พูดให้โกฟังอีกครึ่งชั่วโมง เรื่องโลโก้เรื่องเดียวเลย.

เขียนไปเขียนมาโกก็เริ่มงงแล้วนะ
มันเกี่ยวกับ Common Sense ตรงไหนรึเปล่าเนี่ยะ

3 ความคิดเห็น:

  1. เคยเจอคำถามจากผู้สัมภาษณ์แบบนี้เหมือนกันนะโก
    แต่ตอนนั้นตูนยังเป็นแค่ HR ฝึกหัด เค้าให้เข้าไปสังเกตุการณ์ (อีกแล่ะ)

    ประมาณว่า "ทำไมโลโก้ต้องใช้รูปนี้ครับ??"

    ความรู้สึกตอนนั้น ยังจำได้ว่า "ไอ้นี่ได้งานแน่นอน"
    และแล้วก็จริงด้วยล่ะ แต่...ไม่นานเค้าก็ไป

    นี่นะ ถ้าตูนเจอคนสัมภาษณ์อย่างโกบ่อยๆ คงไม่ได้งานแน่
    คนที่พลาดคงเป็นตูนแหงมๆ

    ตอบลบ
  2. เรื่องฮาฮา ตอนสัมภาษณ์งานมีพอสมควรเลยนะ RGO เคยสัมภาษณ์พนักงานคนหนึ่งมาสมัครงานในตำแหน่งเจ้าหน้าที่ ประักันคุณภาพ เขาบอกว่ามีประสบการณ์มาหลายบริษัืท ทำมาหลากหลาย อะไรอะไรก็เป็น เคยทำโน่นทำนี่ ผมก็นิ่งฟังอยู่นาน และรู้สึกแปลกๆ เลยถามไปว่า เจ้าหน้าที่ประกันคุณภาพ กัับเจ้าหน้าที่ตรวจสอบคุณภาพ ต่างกันอย่างไร
    เขาตอบว่า ประกันว่าเจ้าหน้าที่ตรวจสอบตรวจได้ดี ผมบอกก็ใกล้เคียงแล้วถ้าตรวจไม่ดีแล้วทำอย่างไร ก็จ่ายค่าเคลมสิพี่ ก็ประกันแล้วงัย ผม อ้าวซะงั้น จับเจ้านี่ตกกระป๋องไป

    ตอบลบ
  3. เห็นด้วยกับโกตางที่บอกว่าการสัมภาษณ์ เป็นเพียงด่านแรกในการคัดเลือกคนเข้าทำงาน แต่ประกันไม่ได้ว่า เขาจะทำงานได้ตามที่หน่วยงานนั้นต้องการ มันต้องใช้ การทดลองงาน 3 เดือน นั้นละ เข้ามาช่วย เอาละนี้ (ตรงนี้มีประสบการณ์ตรงเลยนะ) ครั้งเมื่ออยู่บริษัทเก่า ได้สัมภาษณ์ผู้ช่วยเลขาฝ่ายบริหาร (เป็นแบบสัมภาษณ์ร่วมกับต้นสังกัด) นัดมาสัมภาษณ์ 3 คน สรุปว่า ต้นสังกัด โอเคหมด 3 คน เดินออกห้องสัมภาษณ์มา ต้นสังกัดบอกเลือกไม่ถูกเลยคนนั้นก็ดี คนนี้ ก็ดี แต่สุดท้ายก็เลือกมา 1 ใน3 ซึ่งทางเรา (ฝายบุคคล) เห็นว่า คนนี้ ก็โอเค นะ แต่ประสบการณ์เขาไม่ค่อยตรงเท่าไร (ได้แนะนำไปแล้วเช่นกัน)น่าจะเลือกอีกคนดีกว่า ประสบการณ์ ตรงกว่า..ต้นสังกัดไม่เปลี่ยนใจ ก็ตกลงเรื่องเงินเดือน ทำสัญญา นัดเริ่มงาน คราวนี้ พอมาทำงานได้ 1เดือนผ่าน ต้นสังกัดเริ่มบ่นว่าทำงานไม่ได้เรื่อง อ้าวแล้วววววววว ยังไง ล่ะ เราก็ต้องแนะนำอีก ก็มีประเมิน 60 วัน ก็ประเมินไปซิ จะให้ผ่านไม่ผ่าน ถึงเวลาประเมินเสร็จ อ้าวต้นสังกัดให้ผ่าน (งงเลยเรา) หลังจากนั้น ก็บ่นต่อ ทำงาน....... ประเมินอีกที 90 วัน เราก็มีหน้าที่แนะนำอีก ทำไม่ได้ ก็ไม่ต้องให้ผ่าน เพราะยังอยู่ในระยะดูใจ ไม่ผ่าน บริษัท ก็ไม่เสียอะไร (จริงๆ ก็เสียนะ) สุดท้ายก็ให้ผ่านอีก เอาล่ะว๊า.. ก็ลากกันมาสักระยะนับแต่พ้นทดลองงาน สุดท้ายเขาทำกันยังไง รู้ไหม...จับเจ้าน้องคนนี้ โอนไปอยู่ธุรการ..เรามองว่า มันแก้ปัญหาไม่ถูกทางอ่ะ เล่ามาซะยาว เลย จบดีกว่า...

    ตอบลบ