หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2554

คดีฉ้อโกง

บ่ายแก่ๆ แก่มากๆ วันหนึ่ง โกได้รับโทรศัพท์จากหัวหน้างานบัญชี แจ้งความว่าลูกน้องเขาคนหนึ่งมีพฤติกรรมฉ้อโกงบริษัทฯ โดยส่งเงินไม่ครบเมื่อปิดรอบการทำงาน สอบสวนเรียบร้อยแล้วเจ้าตัวก็สารภาพว่าเก็บเงินเอาไว้เอง เจ้าของเสียงดูเหมือนจะมั่นอกมั่นใจมาก หัวหน้างานของเด็กบอกมาเลยว่า “ผมไม่อยากเก็บเด็กคนนี้เอาไว้แล้ว เดี๋ยวผมจะส่งตัวไปให้พี่ดำเนินการต่อเลยนะครับ”.

พี่หัวหน้าครับ ไอ้เรื่องฉ้อโกงเนี่ยะ ข้อหาฉะกันเลยนะครับ ผิดจริงก็เอาออกจากงานสถานเดียวเท่านั้นเอง.

แต่บังเอิญไอ้บ่ายแก่ๆ ที่ว่านั่นน่ะมันบ่ายวันเสาร์ โกก็เหงาๆอยากกลับบ้านแล้ว ก็เลยบอกพี่หัวหน้าเค้าไปว่า “เอายังงี้นะ วันนี้ให้เด็กคนนั้นมันเลิกงานกลับบ้านไปเลยก็แล้วกัน ปิดรอบนับเงินกันให้เรียบร้อย แล้วพรุ่งนี้ค่อยมาเจอกับพี่ กี่โมงดี สิบโมงแล้วกัน” พี่หัวหน้าเค้าก็สวนกลับมาว่า “โห.. พี่ พรุ่งนี้วันอาทิตย์” อ้าววว แล้วไง “ผมก็จะนอนตื่นสายไงครับพี่” เวงเอ้ยยย.. กรูก็หยุดวันอาทิตย์เหมือนกันนะว้อย งั้นจะมากี่โมง “บ่ายโมงแล้วกันครับพี่” เอ้า บ่ายก็บ่าย. อิอิ

ที่สุดก็มาพบกันครบถ้วน จำเลยคนนึง หัวหน้างานคนนึง หัวหน้ารอบอีกสอง แน่นห้องไปหมดเลย สอบไปสอบมา ได้ความว่า..
มีลูกค้ามากินกาแฟสองแก้ว ราคา 100 บาท ลูกค้าจ่ายมาสี่เหรียญ บวกลบคูณหารแล้วเป็นเงิน 118 บาท เกินมา18 บาท ทำไงดี ลูกค้าใจดีเลยบอกว่า ทิปแล้วกัน แต่ดันลืมบอกไปว่าทิปใคร ทิปพนักงานเสิร์ฟหรือทิปแคชเชียร์
ลืมเล่าว่าตอนจ่ายเงิน ลูกค้าไม่ได้นั่งรอที่โต๊ะแต่เดินมาจ่ายเงินที่เคาเตอร์แคชเชียร์เลย เด็กเสิร์ฟก็ยืนรอ(ทิป)อยู่ด้วย ซึ่งแคชเชียร์ก็ไม่ได้เอาเงินให้เด็กเสิร์ฟหรือเอาเงินใส่กล่องทิปหรอกนะ แต่เก็บเอาไว้เอง
แล้วมันเป็นเรื่องขึ้นมาได้ยังไง?

เจ้าแคชเชียร์ปิดรอบของตัวเรียบร้อย ดันแจ้งหัวหน้ารอบว่ามีเงินเกินอยู่ 18 บาท แต่ตอนนับเงินในซองมีเงินเกินมาจริงๆแค่บาทเดียว หัวหน้ารอบเค้าก็เลยเรียกมาถาม ถามไปถามมาก็เลยกลายเป็นว่าแคชเชียร์ไม่ส่งเงิน หรือส่งเงินไม่ครบอย่างที่เล่ามาให้ฟังนั่นแล.
แล้วโกว่าไง?
โกก็ว่า เรื่องนี้จะบอกว่าแคชเชียร์ฉ้อโกงก็ฟังไม่ขึ้นหรอกนะ เพราะลูกค้าบอกว่าเงินที่เหลือให้ทิปไม่ใช่เหรอ? มีพยานเป็นพนักงานเสิร์ฟช่วยยืนยันให้มิใช่เหรอ? ซึ่งเรื่องนี้โกก็สำทับไปแล้วว่าหากสอบพบในภายหลังว่าพยานให้การเท็จ โกเอาออกจากงานทั้งสองคนเลยนะ เมื่อพยานยืนยันหนักแน่น ข้อหาอุ๊บอิ๊บเงินหลวงก็เป็นอันตกไป

ทีนี้ทางหัวหน้าแผนกกับหัวหน้างานเค้าทำท่าจะไม่ยอมอ่ะดิ ก็เลยขุดกันมาใหญ่เลยเกี่ยวกับการทำงานที่ไม่ค่อยจะได้เรื่องของเด็กคนนั้น โกก็นั่งฟังหูห้อยไปเลย ฟังจนจบสิ้นกระบวนท่าเค้าแล้ว โกก็สรุปให้ฟังว่า
1. เรื่องโกงเงินหลวงน่ะเอาผิดไม่ได้หรอก เพราะถ้าหากว่าแคชเชียร์เอาเงินให้พนักงานเสิร์ฟไปหรือเอาใส่กล่องทิป คุณจะเอาเรื่องเค้ามั้ย? คำตอบคือไม่
2. คราวนี้พี่ท่านยกเอาข้อหาอื่นๆมาโปะใส่หัวเด็ก ถามว่าที่ผ่านมาทำไมประวัติเด็กมันถึงได้ขาวสะอาดเป็นผ้าเพิ่งซักยังงี้ ไม่เคยถูกเตือน ไม่เคยถูกตำหนิ ไม่เคยเรียกมาพบฝ่ายบุคคล อยู่ไม่อยู่คุณจะมาบอกว่าจะไม่เอาเด็กคนนี้แล้ว ฝ่ายบุคคลทำไม่ได้ ทำไม่เป็นว้อยยยยย.. เข้าใจป่าว? (คำตอบคือเงียบ)
3. ไอ้ที่ควรจะโดนด่าและโดนพิจารณาก็พวกคุณ 3 คนนี่แหละ ปล่อยปละละเลยกันมาได้ยังไง ทำไมไม่ตักเตือน ไม่จัดการอะไรไปตามขั้นตอนอย่างที่มันควรจะเป็น เข้าใจมั้ยยยยย (คำตอบเสียงอ่อยมาก)
4. ฮ่วยยยยย.. Get out of me แล้วก็แยกย้ายกันไป

แต่.. แต่ช้าแต่ อย่าเพิ่งดีใจไปว่าจะรอดนะไอ้น้อง โกเล่นงานน้องได้อีกข้อหานะจ๊ะ 5555 ข้อหาอมค่าทิปไงจ๊ะ

แล้วยังไงล่ะทีนี้ คือยังงี้ครับ ฐานความผิดต่างๆ ที่เกี่ยวกับเรื่องเงินๆทองๆน่ะ มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนนะครับ ส่วนใหญ่แล้วถ้าผิดจริงก็จะโดนออกจากงานกัน(เกือบ)ทั้งหมดนั่นแหละครับ เป็นการตัดไปเสียแต่ต้นลม เราถือว่าเงินนิดๆหน่อยๆ คุณยังเบียดบังเอาไปได้ คราวหน้าถ้าคุณมีโอกาสคุณก็จะเล่นของใหญ่จัดหนักไปเลย บริษัทฯก็สวัสดีลาก่อนเท่านั้นเอง สำหรับที่ทำงานของโก ความผิดเรื่องอมเงินค่าทิปถือเป็นความผิดร้ายแรงในหมวดการทุจริตด้านการเงินลงโทษด้วยการปลดออกจากงานสถานเดียว ถามว่ากรณีของเด็กแคชเชียร์รายนี้ จะต้องถูกลงโทษด้วยการปลดออกจากงานได้มั้ย?

โกว่า ถ้าจะใจร้ายใจดำก็ปลดได้นะครับ แต่กรณีนี้โกไม่ปลดครับเพราะตอนที่แคชเชียร์ทอนเงินให้ลูกค้า ลูกค้าบอกว่าให้ทิป ถึงจะฟังไม่ได้ชัดๆว่าให้ใคร แต่ก็ยังมีพนักงานอีกคนมายืนยันอีก เนอะ.. อีกอย่างนึงก็คือว่าบทบัญญัติของแผนกเกี่ยวกับเรื่องการอมทิปก็ไม่ได้มีบัญญัติเอาไว้ (พลาดไปแล้ว) จะไปเอาผิดเรื่องนี้แล้วปลดออกเลยมันก็กระไรอยู่นะครับ

เขียนมาตั้งยาว โกอยากบอกแค่ว่าการจะตัดสินความผิดของพนักงานไม่ว่าจะเรื่องใดก็ตามขอให้ยึดความยุติธรรมไว้เป็นที่ตั้งครับ ต้องเป็นความยุติธรรมที่มาจากทั้งหลักรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ควบคู่กันไป ยึดกฏระเบียบหรือนิติศาสตร์นำหน้าอย่างเดียวโดดๆ กลุ่มแรงงานสัมพันธ์เค้าโกรธตายเลยนะครับ.