เคยสัมภาษณ์งานมาแล้วเยอะแยะหลายคนหลายรูปแบบ เคยโดนคนถูกสัมภาษณ์ถามกลับก็หลายครั้งว่าต้องถามเยอะขนาดนั้นเลยเหรอ เคยโดนคนถูกสัมภาษณ์ร้องไห้ใส่ก็มี จนหัวหน้าแผนกเข้ามาแซวว่าทำไมสัมภาษณ์โหดแบบนี้(วะ)
แต่วันนี้เป็นกรณีใหม่เอี่ยมถอดด้ามไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิต เป็นการสัมภาษณ์ผู้สมัครเข้ามาทำงานในตำแหน่งพนักงานต้อนรับครับท่าน
She บอกว่าเคยทำงานเป็นพนักงานต้อนรับมาแล้วปีกว่า โอเค.รับทราบ ก็ถามว่างานที่ทำในหน้าที่น่ะ
มีอะไรบ้าง เจ๊แกก็ตอบได้บ้าง ถูกบ้างผิดบ้าง โอเค.ไม่ว่ากัน
ถามว่าห้องพักที่โรงแรมเก่าราคาเท่าไหร่? ชีตอบว่า 80++. อ่ะนะ
แล้วสรุปว่าเป็นเป็นเท่าไหร่ล่ะ? ชีไม่ยอมตอบ แถไปมาโน่นนี่ โกก็ชักเอะใจ
สุดท้ายบอกโกว่าหัวหน้างานยังไม่อนุญาตให้แจ้งราคาห้องพักให้กับลูกค้าเพราะยังเป็นพนักงานใหม่
อ้าว.. ทำงานมาเป็นปีแล้วยังใหม่อยู่อีกเหรอ
คราวนี้ก็เปลี่ยนจากสัมภาษณ์เป็นสอบสวน สุดท้าย CV เจ๊แกก็ fake อ่ะนะ เพิ่งทำงานได้ 3 เดือน
แต่ดันเขียนบอกใน CV ว่าทำงานมาแล้วปีกว่า
หอยหลอดเอ้ย.
ไม่เป็นไรโกใจดีคุยต่อได้ กลับมาที่ราคาค่าห้องพัก
รู้มั้ยว่าจริงๆแล้วมันเท่าไหร่? ก็ไม่ยอมตอบซักที ทำไมเมิงไม่บอกว่าไม่รู้วะ จะได้หมดเรื่องหมดราวกันไป
นี่ยังไม่ได้ถามเลยนะว่า ไอ้+แรกกับ+ที่สองน่ะ มันคิดยังไง หมายถึงอะไร
เพราะโกว่าถามไปก็ตอบไม่ได้
งั้นเอาใหม่ ทำไมถึงจะลาออกจากงานล่ะ อ๋อ.. ที่ทำงานมันไกลจากบ้านน่ะ
มาอีกแล้วไอ้คำตอบแบบนี้ เลยถามต่อว่าในระยะเวลา 3 เดือนนี่
ย้ายบ้านไกลออกไปจากโรงแรม หรือโรงแรมย้ายที่ตั้งออกไปอยู่ไกลจากบ้านรึเปล่า ถึงเพิ่งรู้สึกเอาวันนี้ว่ามันไกล sheเริ่มหน้าตึงเว้ยเฮ้ย.. ก็วันที่หล่อนไปสมัครงานน่ะ ทั้งโรงแรมทั้งบ้านมันก็ยังที่เดิมเหมือนวันนี้ไม่ใช่เหรอ
ทำไมวันนั้นไม่ไกลแต่วันนี้มันไกลล่ะ ตอนนี้เวลาพูดคิ้วเจ๊เริ่มกระดิกข้างนึงแล้วล่ะ
โอเคบ้านไกล แล้วใช้เวลากี่มากน้อยในการขี่รถไปถึงที่ทำงาน?
20 นาที (โกร้องในใจ โห.. ไกลเฮียเลยนะนั่น) แล้วจากบ้านมาที่โรงแรมนี้ล่ะ กี่นาที?
เจ๊บอกว่า 15 นาที โกก็อึ้ง อ่ะนะ 5 นาทีที่แตกต่างกัน ทำไมเมิงไม่บอกกรูตรงๆว่า
อยากมาทำงานที่นี่เพราะใหญ่กว่า น่าจะมั่นคงแข็งแรงกับชีวิตมากกว่า อะไรแบบนั้น
ถามใหม่อีก CV ที่เขียนมานี่
เขียนเองทำเองรึเปล่า? เจ๊ตอบแบบสาวมั่นว่าทำเองดิ โอเค.ดีมาก เพราะเจ๊บอกว่าจบคอสคอมพิวเตอร์มาด้วย
ไม่มีใบประกาศมาโชว์ก็ไม่เป็นไร เจ๊บอกว่าหายโกก็ไม่ว่า
แต่เจ๊ออกไปนั่งพิมพ์งานให้ดูหน่อยเด่ะ ว่าใช้คอมพิวเตอร์เป็นจริงๆ
เจ๊บอกว่ายังไม่ได้กินข้าวเช้าเลย เอ๋.. เกี่ยวกันยังไงหว่า
โอเช เพราะโกก็คือโก (ตอนนั้น 11.00 เจ๊แกมาถึง 09.30) เอายังงี้นะ เจ๊กลับไปกินข้าวเช้ารวมข้าวเที่ยงก่อน
แล้วบ่ายกลับมาทดสอบการใช้คอม.นะ เจ๊ถามกลับมาแบบมั่นใจว่าทำไมต้องทดสอบการใช้คอม.ด้วย
โกใบ้ eat ไป 5 วินาที.. ตั้งสติเรียกสตังค์กลับมาได้
ก็เริ่มอธิบายให้เจ๊ฟังว่ามันจำเป็นยังไง
สุดท้ายเจ๊ก็บอกว่าไม่ทดสอบหรอก
เพราะเดี๋ยวถ้าทดสอบการใช้คอมเสร็จ ก็จะให้ทดสอบอย่างอื่นอีก มันไม่จำเป็น
แล้วเจ๊ก็บอกว่า "มาสัมภาษณ์เพื่อเข้าทำงาน คุณก็แค่ถามโน่น นั่น นี่
นิดหน่อย ไม่เห็นจะต้องทดสอบอะไร แล้วก็ให้โอกาสพนักงานใหม่ทำงาน
ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเก่งหรือไม่เก่ง.. "
ใบ้ eat เป็นครั้งที่ 2 แล้วโกก็เลยกราบเรียนถามไปว่า
ตอนไปสมัครงานที่โรงแรมเก่าน่ะครับ ทางโน้นเค้าถามอะไรคุณบ้างล่ะครับ เจ๊บอกว่า
"เค้าก็ไม่ได้ถามอะไรมากเหมือนคุณหรอก บอกเพียงแต่ว่าให้ตั้งใจทำงาน
เรียนรู้งาน ก็แค่นั้นเอง"
โกก็เลยบอกว่า "เพราะยังงั้นไงครับ
เพราะเค้าไม่ได้ถามอะไรคุณไงครับ เค้าถึงไม่รู้ว่าคุณจะอยู่กับเค้าแค่ 3
เดือนแล้วก็ลาออกไปหาที่ทำงานใหม่
เพราะตอนนี้นี้คุณรู้สึกว่าที่ทำงานมันไกลบ้านเหลือเกิน
ไม่เหมือนกับวันแรกที่คุณไปของานเขาทำ.. ฯลฯ"
แล้วเธอก็จากไป
โกช้ำใจมากเลยอ่ะ อย่างที่บอกนั่นแหละว่าสัมภาษณ์งานมาเยอะ
(มากกว่าถูกสัมภาษณ์เองแยะ) แต่ไม่เคยเจอกรณีแบบนี้เลย.
งานนี้จะสงสารใครดีคะเนี่ย
ตอบลบ