หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2555

สัมภาษณ์งาน : เจอดีเข้าจนได้


เคยสัมภาษณ์งานมาแล้วเยอะแยะหลายคนหลายรูปแบบ เคยโดนคนถูกสัมภาษณ์ถามกลับก็หลายครั้งว่าต้องถามเยอะขนาดนั้นเลยเหรอ เคยโดนคนถูกสัมภาษณ์ร้องไห้ใส่ก็มี จนหัวหน้าแผนกเข้ามาแซวว่าทำไมสัมภาษณ์โหดแบบนี้(วะ) แต่วันนี้เป็นกรณีใหม่เอี่ยมถอดด้ามไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิต เป็นการสัมภาษณ์ผู้สมัครเข้ามาทำงานในตำแหน่งพนักงานต้อนรับครับท่าน

She บอกว่าเคยทำงานเป็นพนักงานต้อนรับมาแล้วปีกว่า โอเค.รับทราบ ก็ถามว่างานที่ทำในหน้าที่น่ะ มีอะไรบ้าง เจ๊แกก็ตอบได้บ้าง ถูกบ้างผิดบ้าง โอเค.ไม่ว่ากัน

ถามว่าห้องพักที่โรงแรมเก่าราคาเท่าไหร่? ชีตอบว่า 80++. อ่ะนะ แล้วสรุปว่าเป็นเป็นเท่าไหร่ล่ะ? ชีไม่ยอมตอบ แถไปมาโน่นนี่ โกก็ชักเอะใจ สุดท้ายบอกโกว่าหัวหน้างานยังไม่อนุญาตให้แจ้งราคาห้องพักให้กับลูกค้าเพราะยังเป็นพนักงานใหม่ อ้าว.. ทำงานมาเป็นปีแล้วยังใหม่อยู่อีกเหรอ คราวนี้ก็เปลี่ยนจากสัมภาษณ์เป็นสอบสวน สุดท้าย CV เจ๊แกก็ fake อ่ะนะ เพิ่งทำงานได้ 3 เดือน แต่ดันเขียนบอกใน CV ว่าทำงานมาแล้วปีกว่า หอยหลอดเอ้ย.

ไม่เป็นไรโกใจดีคุยต่อได้ กลับมาที่ราคาค่าห้องพัก รู้มั้ยว่าจริงๆแล้วมันเท่าไหร่? ก็ไม่ยอมตอบซักที ทำไมเมิงไม่บอกว่าไม่รู้วะ จะได้หมดเรื่องหมดราวกันไป นี่ยังไม่ได้ถามเลยนะว่า ไอ้+แรกกับ+ที่สองน่ะ มันคิดยังไง หมายถึงอะไร เพราะโกว่าถามไปก็ตอบไม่ได้

งั้นเอาใหม่ ทำไมถึงจะลาออกจากงานล่ะ อ๋อ.. ที่ทำงานมันไกลจากบ้านน่ะ มาอีกแล้วไอ้คำตอบแบบนี้ เลยถามต่อว่าในระยะเวลา 3 เดือนนี่ ย้ายบ้านไกลออกไปจากโรงแรม หรือโรงแรมย้ายที่ตั้งออกไปอยู่ไกลจากบ้านรึเปล่า ถึงเพิ่งรู้สึกเอาวันนี้ว่ามันไกล sheเริ่มหน้าตึงเว้ยเฮ้ย.. ก็วันที่หล่อนไปสมัครงานน่ะ ทั้งโรงแรมทั้งบ้านมันก็ยังที่เดิมเหมือนวันนี้ไม่ใช่เหรอ ทำไมวันนั้นไม่ไกลแต่วันนี้มันไกลล่ะ ตอนนี้เวลาพูดคิ้วเจ๊เริ่มกระดิกข้างนึงแล้วล่ะ

โอเคบ้านไกล แล้วใช้เวลากี่มากน้อยในการขี่รถไปถึงที่ทำงาน? 20 นาที (โกร้องในใจ โห.. ไกลเฮียเลยนะนั่น) แล้วจากบ้านมาที่โรงแรมนี้ล่ะ กี่นาที? เจ๊บอกว่า 15 นาที โกก็อึ้ง อ่ะนะ 5 นาทีที่แตกต่างกัน ทำไมเมิงไม่บอกกรูตรงๆว่า อยากมาทำงานที่นี่เพราะใหญ่กว่า น่าจะมั่นคงแข็งแรงกับชีวิตมากกว่า อะไรแบบนั้น

ถามใหม่อีก CV ที่เขียนมานี่ เขียนเองทำเองรึเปล่า? เจ๊ตอบแบบสาวมั่นว่าทำเองดิ โอเค.ดีมาก เพราะเจ๊บอกว่าจบคอสคอมพิวเตอร์มาด้วย ไม่มีใบประกาศมาโชว์ก็ไม่เป็นไร เจ๊บอกว่าหายโกก็ไม่ว่า แต่เจ๊ออกไปนั่งพิมพ์งานให้ดูหน่อยเด่ะ ว่าใช้คอมพิวเตอร์เป็นจริงๆ

เจ๊บอกว่ายังไม่ได้กินข้าวเช้าเลย เอ๋.. เกี่ยวกันยังไงหว่า โอเช เพราะโกก็คือโก (ตอนนั้น 11.00 เจ๊แกมาถึง 09.30) เอายังงี้นะ เจ๊กลับไปกินข้าวเช้ารวมข้าวเที่ยงก่อน แล้วบ่ายกลับมาทดสอบการใช้คอม.นะ เจ๊ถามกลับมาแบบมั่นใจว่าทำไมต้องทดสอบการใช้คอม.ด้วย โกใบ้ eat ไป 5 วินาที.. ตั้งสติเรียกสตังค์กลับมาได้ ก็เริ่มอธิบายให้เจ๊ฟังว่ามันจำเป็นยังไง

สุดท้ายเจ๊ก็บอกว่าไม่ทดสอบหรอก เพราะเดี๋ยวถ้าทดสอบการใช้คอมเสร็จ ก็จะให้ทดสอบอย่างอื่นอีก มันไม่จำเป็น แล้วเจ๊ก็บอกว่า "มาสัมภาษณ์เพื่อเข้าทำงาน คุณก็แค่ถามโน่น นั่น นี่ นิดหน่อย ไม่เห็นจะต้องทดสอบอะไร แล้วก็ให้โอกาสพนักงานใหม่ทำงาน ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเก่งหรือไม่เก่ง.. "

ใบ้ eat เป็นครั้งที่ 2 แล้วโกก็เลยกราบเรียนถามไปว่า ตอนไปสมัครงานที่โรงแรมเก่าน่ะครับ ทางโน้นเค้าถามอะไรคุณบ้างล่ะครับ เจ๊บอกว่า "เค้าก็ไม่ได้ถามอะไรมากเหมือนคุณหรอก บอกเพียงแต่ว่าให้ตั้งใจทำงาน เรียนรู้งาน ก็แค่นั้นเอง"

โกก็เลยบอกว่า "เพราะยังงั้นไงครับ เพราะเค้าไม่ได้ถามอะไรคุณไงครับ เค้าถึงไม่รู้ว่าคุณจะอยู่กับเค้าแค่ 3 เดือนแล้วก็ลาออกไปหาที่ทำงานใหม่ เพราะตอนนี้นี้คุณรู้สึกว่าที่ทำงานมันไกลบ้านเหลือเกิน ไม่เหมือนกับวันแรกที่คุณไปของานเขาทำ.. ฯลฯ"

แล้วเธอก็จากไป

โกช้ำใจมากเลยอ่ะ อย่างที่บอกนั่นแหละว่าสัมภาษณ์งานมาเยอะ (มากกว่าถูกสัมภาษณ์เองแยะ) แต่ไม่เคยเจอกรณีแบบนี้เลย.