คำว่า “เก่าเก็บ” นี่ มันตีความหมายไปได้หลายอย่างนะครับ
โกก็ตั้งชื่อเรื่องให้มันกำกวมไปยังงั้นเอง ไม่ได้อยากจะพูดพูดเรื่องเมียเก่า เมียเก็บ
หรือของเก่า ของโบราณหรอกนะครับ แต่โกกำลังจะพูดเรื่องคน
ใช่แล้วครับ โกกำลังเผชิญหน้าอยู่กับปัญหาระดับ "อภิมหาอมตะ classic นิรันดร์กาล" ของงานฝ่ายบุคคล
มันไม่ได้เพิ่งจะเกิดกับโกหรอกนะ มันเกิดมานานแล้ว แต่โกเพิ่งนึกจะเขียนถึงมัน
ปัญหาเรื่องพนักงานเก่าแก่ เก่าเก็บ ระดับเก๋า แล้วแต่จะเรียก ยังไงก็ได้
แต่ที่โกว่ามาทั้งหมดนั่น โกเน้นกันที่อายุงานอย่างเดียว อายุสมองและความสามารถไม่เกี่ยวนะครับ
ที่ทำงานปัจจุบันของโก ก่อร่างสร้างมานานประมาณ 10 กว่าปีแล้ว "เพราะฉะนั้น ฉันจึงทรนง .." ใช่เลย แบบเพลงนี้เลยครับ
พนักงานหลายๆๆ คน เติบโตมาพร้อมกับที่ทำงาน และยังคงปฏิบัติงานอยู่
พนักงานหลายคนเติบโตขึ้นไปตามความรู้ ความสามารถ ตามโอกาส ของแต่ละคน
ทำไมต้องเอาคำว่าโอกาสมาประกอบด้วย ก็มันเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้นี่ครับ
คงจะเคยได้ยินกันนะครับ ที่ว่า "เก่ง หรือจะสู้เฮง" ใครจะเถียงโกว่าไม่จริง สมัยนี้ไม่มีแล้ว
เชิญเลยครับ
ยอมรับกันเถอะครับว่า เด็กเส้นใหญ่ ญาติคนนั้น พี่น้องคนนี้ ทุกวันนี้ก็ยังมีอยู่
ปวดหัวมากกับเรื่องแบบนี้ แต่ก็ตัดออกไปจากชีวิตการทำงานไม่ได้ และไม่หมดซักที
ปัญหามันอยู่ที่ว่า จะมีพนักงานจำนวนหนึ่งที่อายุงาน นานมากพอๆกันกับอายุบริษัทฯ
แต่พวกยังย่ำเท้าอยู่กับที่ ไม่ได้เติบโตไปไหนเลย ตำแหน่งที่มาเริ่มงานวันแรกเมื่อสิบปีที่แล้วกับวันนี้
ยังเป็นตำแหน่งเดียวกันอยู่ ทำไมหนอ ทำไม ทำไม และ จะทำยังไง
ถ้าเป็นที่อื่นๆ พนักงานคงจะหาที่ทำงานใหม่ ย้ายไปย้ายมาเป็นตั๊กแตนปาทังก้า
ย้ายไปเอาตำแหน่งใหม่ที่สูงขึ้นแต่เงินเดือนเท่าเดิม หรือย้ายไปเอาเงินเดือนมากกว่าในตำแหน่งเดิม
มันพอจะเลือกกันได้ครับ
แต่ที่ทำงานของโกมันมีข้อแม้ ข้อแตกต่างอยู่ที่ว่า เราอยู่ของเราคนเดียวโด่เด่
ไม่มีสถานประกอบการอื่นๆ แบบเดียวกันหรือเท่าเทียมกัน ในเมืองนี้เลย
แล้วจะให้พนักงานย้ายไปเอาประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ไหนได้ ซึ่งเป็นเรื่องน่าเห็นใจ
มันก็ต้องอยู่ทน ทนอยู่ ให้ตายกันไปข้างล่ะสิครับ
พนักงานบางคนที่พอจะเข้าใจสัจจะธรรมของชีวิต คิดไปแล้วก็เท่านั้น พวกนี้ก็จะสงบปากสงบคำ ก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไป
แต่บางคนไม่ใช่ยังงั้น พวกนี้จะเรียกร้องทุกครั้งที่มีโอกาส ทุกที่ ทุกเวลา
ทำไมตำแหน่งผมไม่ขยับ ทำไมเงินเดือนขึ้นน้อย ผมทำงานมาเป็นสิบปีแล้ว เรื่องงานผมก็รู้หมด
จริงเหรอ?
ฝ่ายบุคคลอย่างโก เบื่อพวกเอ็งโคดๆ ขอบอก..
ทำไมท่านไม่ไปยืนมองหน้าตัวเองในกระจกเงา แล้วถามไอ้คนที่เห็นนั่นว่า เอ็งทำอะไรเป็นบ้าง
เอ็งมีดีอะไรบ้าง นอกจากแก่พรรษา ที่หัวหน้าแผนกเค้าถึงจะต้องส่งเสริมให้เอ็งเติบโตขึ้น
เปลี่ยนผู้จัดการไป 2-3 คนแล้ว เอ็งก็ยังอยู่ที่เดิม ไม่คิดจะปรับปรุงความคิดของตัวเองบ้างเลยเหรอ
ไม่กี่วันก่อน โกก็จัดอบรมให้กับหัวหน้างานระดับล่าง ก็มีคุณพิเศษพวกนี้มารับการอบรมด้วยหลายคน
ปัญหาในการทำงานที่ถูกหยิบยกมาพูดก็เรื่องเก่าๆ เดิมๆ ที่พวกนี้พูดมาตลอด "เงินเดือนน้อย ตำแหน่งต่ำ ทำงานไม่ได้"
อ้อๆ มีปัญหาใหม่ด้วย "ทำไมผลการประเมินของผมบางรายการ คะแนนต่ำกว่าพนักงานอีก?"
ช่างกล้าเอามาถาม ทำไมไม่กลับไปถามคนประเมินก่อนฟะ จะได้คำตอบที่ชัดเจน
เพราะผู้จัดการคุณเป็นคนประเมิน เค้าต้องตอบคุณได้
เรื่องแบบนี้ พูดไปแล้วมันก็เกี่ยวโยงไปถึงหลายเรื่อง รายละเอียดอีกเพียบ
อย่างเวลาหัวหน้างานลาออก จะเอาคนในขึ้น หรือจะเอาคนนอกมาเสียบ ปัญหาทั้งนั้น
พูดไปบ่นไปก็เท่านั้น ก็ประสาคนแก่ไงครับ
อิอิ.
เขียนไปเขียนมา ทำท่าเหมือนไม่รู้จะไปจบลงตรงไหน กับปัญหาแบบนี้
คนจีนคนไหนหว่าที่บอกว่า แมวขาวหรือแมวดำ ถ้ามันจับหนูได้ก็ใช้ได้เหมือนกัน
แต่กับคน มันคงไม่ง่ายยังงั้นนะปู่นะ ปู่บอกเองไม่ใช่เหรอว่า
คนโง่ แล้วขยัน ให้เอาไปฆ่าทิ้งทำปุ๋ยในนา
คนโง่ แล้วขี้เกียจ เอามันไปเป็นกรรมกรทำนา
คนฉลาด แต่ขี้เกียจ เอาไปทำปุ๋ยเหมือนกัน
คนฉลาด แล้วขยัน เอาไปทำพ่อพันธุ์
ใช่ป่าวก็ไม่รู้ แต่บรรทัดสุดท้ายน่ะ ไม่ใช่แน่ๆ 55555.
วันจันทร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2554
วันเสาร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2554
สองมาตรฐาน
โกไม่รู้เหมือนกันว่า ตัวเองไม่มีเรื่องจะเขียน หรือว่าไม่มีเวลาจะเขียน
เลยไม่ได้เขียนอะไรนานแล้วนะครับ แต่จริงๆ คงจะไม่ใช่เรื่องที่ว่าไม่มีเวลา
เพราะทุกคนมีเวลาวันละ 24 ชั่วโมงเท่ากัน มันเป็นข้อแก้ตัวง่ายๆ มากกว่า
ยกเว้น คนที่กำลัง in love หรือ รออะไรบางอย่าง เวลาอาจจะนานหน่อย 5555
คิดถึงคนอ่านเหมือนกันนะเนี่ยะ
วันนี้อารม์ผีออก เลยตื่นแต่เช้าแล้วก็มานั่งเขียนเรื่อง "สองมาตรฐาน"
โกน่ะ ถึงขนาดเคยโดนเด็กต่อว่ากลางที่ประชุมมาแล้วนะ แต่ไม่อายหรอก สีทนได้
คนที่เป็นหัวหน้างาน หรือที่เป็นฝ่ายบุคคลเหมือนกับโก
ท่านเคยถามตัวเองบางมั้ยครับว่า ตัวเองเป็นคนสองมาตรฐานหรือเปล่า
หรือเคยโดนใครด่าบ้างมั้ยว่า "เป็นคนสองมาตรฐาน"
อย่าไปพูดถึงนักการเมืองเลยนะ พวกนั้นเป็นคนไม่มีมาตรฐานมากกว่า
จะว่าไปแล้ว กับของบางอย่าง กับเรื่องบางเรื่อง เลข 2 นี่อาจจะเป็นเลขไม่ดีนะครับ
อ้อ.. ต้องเพิ่มว่า สำหรับคนบางเข้าไปด้วย อย่าลืม
ยกตัวอย่างเช่น "จับปลาสองมือ" โบราณท่านห้ามเอาไว้ "หมาสองราง" นี่ก็ไม่ดี "ลิ้นสองแฉก" ก็ไม่ดี
"เมียสองต้องห้ามตามตำรา" ไม่ดีเหมือนกัน เอ๊ะ... หรือว่าดี ไม่รู้นะ เรื่องนี้ตัวใครตัวมันดีกว่า
โกค่อนข้างจะเห็นด้วยนะครับว่า เลข 2 มันไม่ค่อยดี
แต่ก็ใช่ว่าจะเสมอไปนะ โกมีเพื่อนที่ดีคนนึงชื่อเล่นชื่อสอง เค้าก็ออกจะดีนะ
แล้วโกก็เลยไม่เป็นคนสองมาตรฐาน แต่ปาเข้าไปสาม สี่ ห้า โน่นแหละ
อ้าว... ไหงงั้นล่ะ
โกมีความรู้สึกว่า การตัดสินใจในเรื่องราวต่างๆ มันขึ้นอยู่กับรายละเอียดเยอะแยะ
โดยเฉพาะการตัดสินคดีความ
การกระทำผิดในฐานเดียวกัน โดยบุคคลสองคน อาจจะมาจากเหตุผลที่แตกต่างกัน
บนเหตุการณ์ที่เขากำลังเผชิญอยู่ที่แตกต่างกัน.
โกเคยตัดสินลงโทษพนักงานสองคนที่ทำผิดเหมือนๆกัน แต่โดนลงโทษแตกต่างกัน
ด้วยเหตุผลว่า พนักงานคนหนึ่งนั้นเป็นคนเรียบร้อยมาก ไม่เคยมีประวัติเสีย
ส่วนอีกคนหนึ่ง เป็นพนักงานในระดับที่คุณอยากเอาออกซะวันนี้เลย
ด้วยเหตุผลแบบนี้ ประกอบกับเมื่อสอบสวนแล้ว พบว่าความผิดเกิดจากการตั้งใจกระทำ
กับความจำเป็นที่จะต้องกระทำ ก็เลยลงโทษหนักเบาแตกต่างกันไป
แน่นอนอยู่แล้วว่า พนักงานที่โดนลงโทษหนักกว่าย่อมมีความรู้สึกไม่ยินยอมเป็นอย่างยิ่ง
แล้วยังไง เค้าเข้ามาถามเลยครับว่า ทำไมโกตัดสินแบบนี้
โกก็เลยตอบเค้าไปว่า "เพราะคุณไม่ได้เป็นพนักงานที่ประพฤติตัวดีแบบคนนั้น
คุณเป็นคนที่บริษัทฯ อยากให้ออกจากงานมากๆ
วันนี้ความผิดของคุณยังไม่ถึงขั้นไล่ออก แต่ถ้าใช่ ผมจะไม่ลังเลที่จะเอาคุณออก"
โหยยยย... มันไม่ได้รู้สำนึกหรอกครับ มันร้องเรียนไปเรื่อย
จนเรื่องถึงนายใหญ่ เค้าเลยเรียกโกไปสอบถาม โกก็ตอบแบบเดิม
พอรู้ว่าอีกคนที่โดนลงโทษเป็นใคร นายก็ไม่ว่าอะไร พูดแค่ว่า "เคลียร์ให้ดีๆ ก็แล้วกัน"
เคลียร์อะไรล่ะครับนาย เรื่องแบบนี้
อย่างมาก ก็ใส่หมวกกันน๊อคมาทำงานทุกวันเท่านั้นเอง อิอิ
เรื่องที่เล่าให้ฟังนี่ เกิดขึ้นนานประมาณ 15 ปีแล้วล่ะครับ ตอนนั้นเป็นฝ่ายบุคคลใหม่ๆ
ผ่านมาจนถึงตอนนี้ ก็ยังโดนด่าเรื่องสองมาตรฐานอยู่เหมือนเดิม
แสดงว่าสันดานเปลี่ยนไม่ได้จริงๆ (ฮา)
เลยไม่ได้เขียนอะไรนานแล้วนะครับ แต่จริงๆ คงจะไม่ใช่เรื่องที่ว่าไม่มีเวลา
เพราะทุกคนมีเวลาวันละ 24 ชั่วโมงเท่ากัน มันเป็นข้อแก้ตัวง่ายๆ มากกว่า
ยกเว้น คนที่กำลัง in love หรือ รออะไรบางอย่าง เวลาอาจจะนานหน่อย 5555
คิดถึงคนอ่านเหมือนกันนะเนี่ยะ
วันนี้อารม์ผีออก เลยตื่นแต่เช้าแล้วก็มานั่งเขียนเรื่อง "สองมาตรฐาน"
โกน่ะ ถึงขนาดเคยโดนเด็กต่อว่ากลางที่ประชุมมาแล้วนะ แต่ไม่อายหรอก สีทนได้
คนที่เป็นหัวหน้างาน หรือที่เป็นฝ่ายบุคคลเหมือนกับโก
ท่านเคยถามตัวเองบางมั้ยครับว่า ตัวเองเป็นคนสองมาตรฐานหรือเปล่า
หรือเคยโดนใครด่าบ้างมั้ยว่า "เป็นคนสองมาตรฐาน"
อย่าไปพูดถึงนักการเมืองเลยนะ พวกนั้นเป็นคนไม่มีมาตรฐานมากกว่า
จะว่าไปแล้ว กับของบางอย่าง กับเรื่องบางเรื่อง เลข 2 นี่อาจจะเป็นเลขไม่ดีนะครับ
อ้อ.. ต้องเพิ่มว่า สำหรับคนบางเข้าไปด้วย อย่าลืม
ยกตัวอย่างเช่น "จับปลาสองมือ" โบราณท่านห้ามเอาไว้ "หมาสองราง" นี่ก็ไม่ดี "ลิ้นสองแฉก" ก็ไม่ดี
"เมียสองต้องห้ามตามตำรา" ไม่ดีเหมือนกัน เอ๊ะ... หรือว่าดี ไม่รู้นะ เรื่องนี้ตัวใครตัวมันดีกว่า
โกค่อนข้างจะเห็นด้วยนะครับว่า เลข 2 มันไม่ค่อยดี
แต่ก็ใช่ว่าจะเสมอไปนะ โกมีเพื่อนที่ดีคนนึงชื่อเล่นชื่อสอง เค้าก็ออกจะดีนะ
แล้วโกก็เลยไม่เป็นคนสองมาตรฐาน แต่ปาเข้าไปสาม สี่ ห้า โน่นแหละ
อ้าว... ไหงงั้นล่ะ
โกมีความรู้สึกว่า การตัดสินใจในเรื่องราวต่างๆ มันขึ้นอยู่กับรายละเอียดเยอะแยะ
โดยเฉพาะการตัดสินคดีความ
การกระทำผิดในฐานเดียวกัน โดยบุคคลสองคน อาจจะมาจากเหตุผลที่แตกต่างกัน
บนเหตุการณ์ที่เขากำลังเผชิญอยู่ที่แตกต่างกัน.
โกเคยตัดสินลงโทษพนักงานสองคนที่ทำผิดเหมือนๆกัน แต่โดนลงโทษแตกต่างกัน
ด้วยเหตุผลว่า พนักงานคนหนึ่งนั้นเป็นคนเรียบร้อยมาก ไม่เคยมีประวัติเสีย
ส่วนอีกคนหนึ่ง เป็นพนักงานในระดับที่คุณอยากเอาออกซะวันนี้เลย
ด้วยเหตุผลแบบนี้ ประกอบกับเมื่อสอบสวนแล้ว พบว่าความผิดเกิดจากการตั้งใจกระทำ
กับความจำเป็นที่จะต้องกระทำ ก็เลยลงโทษหนักเบาแตกต่างกันไป
แน่นอนอยู่แล้วว่า พนักงานที่โดนลงโทษหนักกว่าย่อมมีความรู้สึกไม่ยินยอมเป็นอย่างยิ่ง
แล้วยังไง เค้าเข้ามาถามเลยครับว่า ทำไมโกตัดสินแบบนี้
โกก็เลยตอบเค้าไปว่า "เพราะคุณไม่ได้เป็นพนักงานที่ประพฤติตัวดีแบบคนนั้น
คุณเป็นคนที่บริษัทฯ อยากให้ออกจากงานมากๆ
วันนี้ความผิดของคุณยังไม่ถึงขั้นไล่ออก แต่ถ้าใช่ ผมจะไม่ลังเลที่จะเอาคุณออก"
โหยยยย... มันไม่ได้รู้สำนึกหรอกครับ มันร้องเรียนไปเรื่อย
จนเรื่องถึงนายใหญ่ เค้าเลยเรียกโกไปสอบถาม โกก็ตอบแบบเดิม
พอรู้ว่าอีกคนที่โดนลงโทษเป็นใคร นายก็ไม่ว่าอะไร พูดแค่ว่า "เคลียร์ให้ดีๆ ก็แล้วกัน"
เคลียร์อะไรล่ะครับนาย เรื่องแบบนี้
อย่างมาก ก็ใส่หมวกกันน๊อคมาทำงานทุกวันเท่านั้นเอง อิอิ
เรื่องที่เล่าให้ฟังนี่ เกิดขึ้นนานประมาณ 15 ปีแล้วล่ะครับ ตอนนั้นเป็นฝ่ายบุคคลใหม่ๆ
ผ่านมาจนถึงตอนนี้ ก็ยังโดนด่าเรื่องสองมาตรฐานอยู่เหมือนเดิม
แสดงว่าสันดานเปลี่ยนไม่ได้จริงๆ (ฮา)
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)